ผักธรรมดาที่เรานิยมนำไปประกอบอาหารอย่าง “ผักกาด” นั้น ความจริงแล้วผักชนิดนี้ถูกจัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง ที่สามารถรักษาโรคได้มากมายทีเดียว ที่หลายท่านอาจคาดไม่ถึง
ผักกาดนั้นมีอยู่สองประเภท คือ ประเภทกินใบ ได้แก่ ผักกาดขาว ผักกาดดำ และประเภทกินดอก เช่น กะหล่ำดอก ซึ่งในผักกาดจะอุดมไปด้วยสารที่ช่วยป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง ในอดีตมักจะคั้นเอาน้ำสด ๆ ใช้อมกลั้วคอสำหรับรักษาอาการร้อนใน และยังใช้ทารักษาโรคโซไรอะซิส หรือโรคเรื้อนกวาง
บร็อคโคลี่ก็ถือเป็นตระกูลเดียวกับผักกาด หรือบางคนรู้จักกันในชื่อ กะหล่ำดอกอิตาเลียน จะให้พลังงานมากกว่าผักคะน้า หัวไชโป๊ กะหล่ำดอก ผักกาดขาวปลี(อีลุ้ย) และกวางตุ้ง
ส่วนผักกาดหอมหรือผักสลัด ในทางวิทยาศาสตร์พบว่า ผักในตระกูลนี้รักษาโรคได้ทุกโรค เป็นทั้งอาหารและยาสมุนไพรที่ให้ประโยชน์มหาศาลอย่างมาก จึงแนะนำให้รับประทานผักชนิดนี้เสมอ ซึ่งโดดเด่นเป็นอย่างมากในเรื่องการป้องกันกระดูกพรุน หูตาพร่ามัว ป้องกันมะเร็ง ในขณะที่แพทย์แผนไทยโบราณได้จัดผักกาดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง โดยน้ำต้มผักกาดสามารถใช้ดื่มแก้อาการเจ็บคอ ใช้หยอดรักษาเป็นยาล้างแผลเรื้อรัง และพ่นแก้อาการหอบหืด การนำผักกาดบดหรือกวางตุ้งบดแล้วคั้นเอาเฉพาะน้ำ ให้ได้ 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นเทลงไปในน้ำเดือดปริมาณ 1 ถ้วยตวง รอให้อุ่น สำหรับดื่มแทนน้ำจะช่วยเสริมพลังงาน ชะลอแก่ได้อีกด้วย
สรรพคุณของผักกาดยังไม่หมดเพียงเท่านี้ หากลวกใบผักกาดขาว ตัดเป็นท่อน ๆ โรยด้วยเกลือ น้ำส้ม น้ำตาล เหยาะน้ำมันงาบริสุทธิ์ 1 ช้อนชา หมักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วทานกับข้าวต้มทุกวัน จะช่วยให้ฟื้นตัวจากไวรัสตับอักเสบบีได้รวดเร็ว และถ้านำผักกาดเขียวปลี 1 กิโลกรัมกับแห้วสดครึ่งกิโลกรัม ต้มดื่มเป็นน้ำชา แล้วบีบมะนาวลงไปด้วย ยังจะช่วยขับปัสสาวะและลดความร้อนในร่างกาย ป้องกันโรคนิ่วได้อีกด้วย ประโยชน์มหาศาลแบบนี้ไม่ทานไม่ได้แล้ว