…เมื่อเราเข้าเป็นลูกจ้างของบริษัท เราได้รับการคุ้มครองจากประกันสังคมโดยอัตโนมัติ…
…แต่เมื่อเราออกจากงาน สิทธิการเป็นผู้ประกันตนของเราก็มิได้สิ้นสุดตามไปด้วย…
ทันทีที่เข้าทำงานเป็นลูกจ้างของ บริษัท เงินเดือนของเราส่วนหนึ่งจะถูกหักเข้ากองทุนประกันสังคม ซึ่งจะทำให้เราได้รับการคุ้มครองจากสำนักงานประกันสังคมใน 7 กรณี คือ ได้รับอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน
เมื่อเราออกจากงาน ก็ใช่ว่าสิทธิประกันสังคมของเราจะสิ้นสุดลงทันที แม้เราเจ็บไข้ได้ป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร หรือเสียชีวิต ภายใน 6 เดือนหลังจากออกจากงาน เรายังได้รับ การคุ้มครองจากสำนักงานประกันสังคมอยู่ แต่หากเรากลับเข้าไปเป็นลูกจ้างอีกครั้งหนึ่ง เราก็จะกลับมาได้รับสิทธิทั้ง 7 อย่างเช่นเดิม
สำหรับบางคนที่ออกจากงานมาประกอบอาชีพส่วนตัว เมื่อสิทธิประกันสังคมสิ้นสุดลงหลังจาก 6 เดือนที่ออกจากงานแต่ยังต้องการได้รับสิทธิประกันสังคมต่อ เรายังสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนภาคสมัครใจ มาตรา 39ได้ โดยส่งเงินสมทบเดือนละ 432 บาท เราก็จะได้รับสิทธิประโยชน์การคุ้มครองใน 6 กรณี ได้แก่
- ได้รับอันตรายหรือเจ็บป่วย
- ทุพพลภาพ
- ตาย
- คลอดบุตร
- สงเคราะห์บุตร
- ชราภาพ
โดยในเงินจำนวนนี้แบ่งเป็น 144 บาท สำหรับใช้เป็นสิทธิประโยชน์ยามเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ เสียชีวิต และอีก 288 บาท เป็นเงินออมกรณีชราภาพ ซึ่งเราจะได้รับเงินออมคืนเมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง ไม่น่าเชื่อเลยว่า เงินสมทบที่เราต้องจ่ายทุกเดือนกว่าครึ่งจะกลายเป็นเงินออมในอนาคตของเรานั่นเอง
เริ่มเห็นความน่าสนใจของการเป็นผู้ประกันตนแล้วใช่ไหม ทีนี้เราลองมาดูคุณสมบัติของผู้ที่ต้องการสมัครเป็นผู้ประกันตนภาคสมัครใจ มาตรา 39 กันบ้าง สำรวจตัวเองไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า ด้วยการตอบคำถามต่อไปนี้
- คุณเคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และนำส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือนใช่หรือไม่
- คุณได้สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้างมาแล้วไม่เกิน 6 เดือนใช่หรือไม่
- คุณมิได้เป็นผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีทุพพลภาพจากกองทุนประกันสังคมใช่หรือไม่
หากคำตอบทุกข้อคือ ” ใช่” เตรียมหลักฐานต่อไปนี้ แล้วไปสมัครรับสิทธิด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมทุกแห่ง
- แบบคำขอเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจตามมาตรา 39 (สปส.1-20)
- บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่มีรูปถ่ายซึ่งทางราชการออกให้พร้อมสำเนา
ตามเงื่อนไขของการเป็นผู้ประกันตนภาคสมัครใจ มาตรา 39 ผู้ประกันตนต้องนำส่งเงินสมทบในอัตราเท่ากันทุกเดือนเดือนละ 432 บาท ภายในวันที่ 15 ของทุกเดือน หากเกินกำหนดจะต้องเสียเงินเพิ่ม ร้อยละ 2 ต่อเดือน โดยสามารถส่งเงินสมทบได้ 4 วิธี คือ
- จ่ายที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด
- จ่ายเงินทางธนาณัติหรือจ่ายผ่านไปรษณีย์ทั่วประเทศ
- ส่งผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารนครหลวงไทย
- เปิดบัญชีออมทรัพย์และให้ทางธนาคารหักจากบัญชีธนาคารกรุงไทยธนาคาร กรุงศรีอยุธยา ธนาคารนครหลวงไทย และธนาคารกสิกรไทย (มีค่าธรรมเนียมในการหักบัญชีเดือนละ 10 บาท)
หากเราไม่ส่งเงินสมทบตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ เราอาจสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ได้ ถ้าเราไม่อยากเสียสิทธิดังกล่าว จงอย่าขาดส่งเงินสมทบ 3 เดือนติดต่อกัน เพราะจะสิ้นสุดการเป็น ผู้ประกันตนตั้งแต่เดือนแรกที่ไม่ส่งเงินสมทบ และหากส่งเงินสมทบไม่ครบ 9 เดือนภายในระยะเวลา 12 เดือน จะสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนตั้งแต่เดือนที่ส่งเงินสมทบไม่ครบเก้าเดือน
นอกจากการไม่ส่งเงินสมทบตามกำหนดแล้ว การเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ยังสามารถสิ้นสุดลงได้เนื่องจากสาเหตุอื่นด้วย คือ ผู้ประกันตนเสียชีวิต หรือกลับไปเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือลาออกจากมาตรา39
เห็นไหมว่า ถึงเราจะออกจากงาน เราก็ยังสามารถได้รับการคุ้มครองจากประกันสังคมอยู่ ด้วยเงื่อนไขที่ไม่ยากเลย หากสมาชิกท่านใดต้องการสมัครใช้สิทธิดังกล่าวสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่ม เติมได้ที่ ศูนย์สารนิเทศ สายด่วนประกันสังคม 1506