บริการทางการแพทย์... สำหรับผู้ประกันตน

บริการทางการแพทย์... สำหรับผู้ประกันตน

                          “ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” คงไม่มีใครกล้าที่จะปฏิเสธคากล่าวนี้ เพราะสุขภาพร่างกายของคนเราเป็นสิ่งสาคัญที่เราจะต้องดูแลเอาใจใส่ ทนุถนอมร่างกายของเราให้แข็งแรงเพื่อที่พร้อมจะเผชิญปัญหาในทุกๆด้าน ร่างกายจะอยู่กับเราไปจนตราบสิ้นอายุขัย ฉะนั้นเราควรรักษาสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อชีวิตประจาวันของเราที่จะต้องออกไปต่อสู้ กับสภาวะแวดล้อมที่ย่าแย่ในปัจจุบันจะได้ดาเนินไปอย่างปกติสุข
กองทุนประกันสังคมเปรียบเสมือนหลักประกันความมั่นคงในชีวิตขั้นพื้นฐานให้แก่ผู้ประกันตน ซึ่งสานักงานประกันสังคมก็เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลการให้ความคุ้มครองลูกจ้าง (ผู้ประกันตน) ที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนโดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ 7 กรณี คือ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตายที่ไม่เนื่องจากการทางาน รวมถึงคลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และการว่างงาน
ซึ่ง 1 ใน 7 สิทธิประโยชน์ของกองทุนประกันสังคมที่ผู้ประกันตนใช้บริการมากที่สุดคือ “กรณีเจ็บป่วย” การให้บริการทางการแพทย์ตามหลักเกณฑ์ในกรณีเจ็บป่วยนั้นเมื่อจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือนและเลือกโรงพยาบาลแล้วผู้ประกันตนจะได้รับ “บัตรรับรองสิทธิฯ” ซึ่งบัตรจะมีชื่อผู้ประกันตน และชื่อสถานพยาบาลที่เลือกไว้ ให้ใช้ควบคู่กับบัตรประจาตัวประชาชน การเข้ารับการรักษาพยาบาลไม่ว่าจะเป็น ผู้ป่วยนอก คือ การเข้าไปรับบริการทางการแพทย์โดยได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ จัดยาให้แล้วกลับบ้าน หรืออาจต้องนอนพักรักษาตัวเป็น ผู้ป่วยใน ค่ารักษาพยาบาล ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในโรงพยาบาลตามบัตรฯ ผู้ประกันตนไม่ต้องจ่าย ยกเว้นสิทธิพิเศษอื่นๆที่ผู้ประกันตนขอเอง ทั้งนี้สถานพยาบาลที่ผู้ประกันตนเลือกเป็นสถานพยาบาลหลัก อาจมีสถานพยาบาลเครือข่าย เช่น โรงพยาบาล หรือคลินิก ถ้าโรงพยาบาลที่ท่านเลือกระบุไว้ผู้ประกันตนก็ไปรักษาพยาบาลได้ ในขณะเดียวกัน ถ้าโรคบางโรค โรงพยาบาลตามบัตรฯ รักษาไม่ได้หรือไม่มีแพทย์เฉพาะทาง โรงพยาบาลตามบัตรฯ ก็จะมีโรงพยาบาลระดับสูง ที่โรงพยาบาลตามบัตรฯ จะเป็นผู้ส่งตัวผู้ประกันตนไปรักษาโดยค่ารักษาพยาบาลอยู่ในความรับผิดชอบของโรงพยาบาลตามบัตรฯ แต่หากเป็นกรณีฉุกเฉินไม่สามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลตามที่ระบุไว้ในบัตรรับรองสิทธิฯ ได้ ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดและควรให้ญาติหรือผู้เกี่ยวข้องแจ้งโรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ ให้รับทราบโดยด่วนภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมงนับจากวันเกิดเหตุ เพื่อที่จะได้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลหรือ รับตัวผู้ประกันตนไปรักษาตัวต่อ สาหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นก่อนแจ้งให้โรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ ทราบหากเป็นโรงพยาบาลของรัฐ ผู้ประกันตนสามารถเบิกค่ารักษาได้เท่าที่จ่ายจริงตามความจาเป็นภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงและหากเป็นโรงพยาบาลเอกชนจะเบิกได้ ตามที่สานักงานประกันสังคมประกาศกาหนด
สานักงานประกันสังคม มีมาตรฐานในการให้บริการทางการแพทย์ซึ่งนอกจากจะออกตรวจเยี่ยมตามสถานพยาบาลประกันสังคมแล้ว สานักงานประกันสังคมก็ยังมีการคัดเลือกสถานพยาบาลในดวงใจเป็นประจาทุกปี เพื่อเป็นการสร้างแรงกระตุ้นและจูงใจให้แก่สถานพยาบาลเพื่อแข่งขันกัน ยกระดับคุณภาพสถานพยาบาลให้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ประกันตน ที่เจ็บป่วยมีกาลังใจในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ สร้างความอบอุ่น มีทัศนคติที่ดี ต่อสานักงานประกันสังคม และเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการรับบริการทางการแพทย์ ในระบบประกันสังคมมากขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนให้สถานพยาบาลประกันสังคมมีการพัฒนา การให้บริการทางการแพทย์ และดูแลเอาใจใส่ผู้ป่วยประกันตนมากยิ่งขึ้น ซึ่งในการลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมแต่ละครั้ง ทางสานักงานประกันสังคมได้จัดให้มีการประเมินผลทุกครั้ง เพื่อนามาหาข้อปรับปรุงแก้ไขเพื่อการให้บริการที่ประทับใจแก่ผู้ประกันตนต่อไป
……………………………………………………….

 675
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์