อย.แนะวิธีรับประทานยาพาราฯให้ปลอดภัย

อย.แนะวิธีรับประทานยาพาราฯให้ปลอดภัย

รองเลขา อย. แนะวิธีรับประทานยาพาราฯ ให้ปลอดภัย เหมาะกับน้ำหนักตัว และไม่ส่งผลต่อตับมนุษย์
 

              ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และในฐานะโฆษก อย. เปิดเผยว่า ยาพาราเซตามอลเป็นยาที่ควรเลือกใช้เป็นอันดับแรกสำหรับบรรเทาอาการปวดลดไข้ เป็นยาที่ได้ผลดี ปลอดภัย ทั้งในผู้ใหญ่ เด็ก ผู้ป่วยโรคไต โรคแผลในกระเพาะอาหาร ไข้หวัดใหญ่ ตลอดจนผู้ป่วยหอบหืดซึ่งอาจแพ้ยาในกลุ่มแอสไพรินได้ แต่ในปัจจุบันพบรายงานการเกิดพิษจากยาพาราเซตามอลโดยเฉพาะพิษต่อตับ จากการได้รับยาเกินขนาดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งมีสาเหตุสำคัญคือ การกินยาซ้ำซ้อนการกินยาเกินขนาดไม่เหมาะสมกับน้ำหนักตัว หรือเกินขนาดสูงสุดที่ควรได้รับในแต่ละวัน จึงเร่งออกมาตรการเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวการกินยาซ้ำซ้อนนั้น เป็นเพราะมียาที่นิยมใช้ทั่วไปหลายชนิด เพื่อป้องกันปัญหานี้ อย. จึงออกมาตรการแก้ไขฉลากยา โดยเพิ่มข้อความ "ยานี้มีพาราเซตามอล" ตามด้วยความแรงของยาไว้ให้เห็นเด่นชัด และไม่ให้ใช้ชื่ออื่น ๆ ของยาพาราเซตามอล เช่น อะเซตามิโนเฟน จึงขอให้ประชาชนอ่านฉลากยาให้ละเอียด และสอบถามเภสัชกรให้แน่ใจว่ายาทุกชนิดที่ใช้อยู่ไม่มีตัวยาซ้ำซ้อนกัน         

     ทั้งนี้ อย. ได้ออกมาตรการแก้ไขขนาดยาที่ระบุบนฉลากของยาเม็ดและยาน้ำพาราเซตามอลทุกชนิด โดยให้แนะนำขนาดยาตามน้ำหนักตัวของแต่ละคน ขนาดที่แนะนำบนฉลากในผู้ใหญ่และเด็กอยู่ในช่วง 10-15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพราะน้ำหนักตัวเฉลี่ยของคนไทยต่ำกว่าชาวตะวันตกมาก ประชาชนควรเลือกใช้ยาพาราเซตามอลขนาด 325 มิลลิกรัม แทนขนาด 500 มิลลิกรัม ซึ่งนิยมจำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย เพราะปลอดภัยในการใช้มากกว่าการใช้ยาพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม ในขนาดครั้งละ 2 เม็ด นั้นจะเหมาะสมกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 66.7 กิโลกรัมขึ้นไป โดยกินได้ไม่เกินวันละ 4 กรัม หรือ 8 เม็ดเท่านั้น

 1879
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์