ยา-อาหาร คู่อริที่ต้องเลี่ยงเพื่อความปลอดภัย
อาหารบางชนิดที่เราคิดว่ามีประโยชน์ แต่ถ้าหยิบมารับประทานกับยาบางชนิด อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ถ้าไม่อยากป่วยเรื้อรัง รีบเลี่ยงด่วน
ยา เป็นวิธีการรักษาโรคทางวิทยาศาสตร์ที่ให้ผลดี ทำให้เราหายเจ็บป่วยได้ ขณะที่อาหารก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมทำให้การรักษาเป็นไปได้ด้วยดี แต่ทุก ๆ ท่านทราบหรือไม่ว่ายาและอาหารบางชนิดไม่สามารถรับประทานด้วยกันได้ เพราะถ้าหากนำมาทานคู่กันอาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีต่อร่างกาย อย่างที่เว็บไซต์ Reader's Digest ได้นำมาให้ดูกัน ใครที่กำลังใช้ยาบางชนิดในการรักษาอาการเจ็บป่วยแล้วอยากหายไว ๆ ล่ะก็ ควรอ่านอย่างยิ่ง จะได้หลีกเลี่ยงได้ยังไงล่ะ
1. ยาปฏิชีวนะ กับ ผลิตภัณฑ์จากนม
ยาปฏิชีวนะที่อยู่ในกลุ่ม Quinolone เช่น Cipro และ Levaquin จะด้อยประสิทธิภาพลงหากรับประทานกับผลิตภัณพ์จากนมต่าง ๆ โดยแคลเซียมและธาตุเหล็กที่อยู่ในนมจะไปขัดขวางไม่ให้ร่างกายดูดซึมยาดังกล่าว ทำให้การรับประทานยาไม่ได้ผล และส่งผลเสียต่อการรักษาโรคต่าง ๆ
2. ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด กับ ผักกาด
วิตามินเคเป็นสารอาหารที่พบได้มากในผักประเภท คะน้า ผักกาด และบรอกโคลี ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดอย่าง Warfarin และปริมาณของวิตามินเคในร่างกายก็มีผลต่อยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด Wafarin ด้วยเช่นกัน โดยไปหยุดยั้งการทำงานของยาดังกล่าว เพราะฉะนั้นเพื่อให้ยาดังกล่าวสารมารถทำงานได้อย่างดีก็ควรที่จะรับประทานวิตามินเคให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ
3. ยารักษาความดันโลหิต กับ ชะเอม
ชะเอมมีส่วนประกอบของสารกลีซีร์ริซิน (Glycyrrhizin) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น แต่หากเรารับประทานชะเอมกับยารักษาความดันโลหิต ซึ่งมีฤทธิ์ไปทำให้ความดันโลหิตลดลง ชะเอมจะทำให้ยารักษาความดันโลหิตเสื่อมประสิทธิภาพลง และยังทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นอีกจนเป็นอันตรายได้
นอกจากนี้จากนี้ยังมีอาหารบางชนิดอย่างเช่น ทับทิม ที่จะไปเพิ่มประสิทธิภาพของยาลดความดันในกลุ่ม ACE inhibitor มากเกินไป จนทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะได้ ดังนั้นถ้าหากคุณรับประทานยาความดันโลหิตอยู่ละก็ ลองปรึกษาแพทย์เรื่องการรับประทานอาหารด้วยนะคะ
4. ยาลดไขมัน Statins กับ น้ำเกรปฟรุต
การดื่มน้ำเกรปฟรุตพร้อม ๆ กับการรับประทานยาลดไขมัน Statins จะทำให้ยาไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เพราะในน้ำเกรปฟรุตนั้นมีสารที่จะไปยับยั้งเอนไซม์ที่ร่างกายใช้ในการเผาผลาญยาชนิดนี้ เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาชนิดนี้พร้อมกับน้ำเกรปฟรุต ทางที่ดีรับประทานกับน้ำเปล่าจะดีที่สุดค่ะ
5. เคมีบำบัด กับ น้ำส้ม
สำหรับผู้ที่กำลังทำการรักษาด้วยเคมีบำบัด เครื่องดื่มที่ดูเหมือนจะเป็นเครื่องดื่มต้องห้ามก็คือน้ำส้ม เพราะการดื่มน้ำส้มในขณะที่ใช้ยาเคมีบำบัดอาจจะทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมยาไปใช้เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ได้ นอกจากนี้น้ำแครนเบอร์รีก็ยังส่งผลเช่นเดียวกับน้ำส้มอีกด้วย ฉะนั้นหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำส้มและน้ำแครนเบอร์รี่ในช่วงการใช้เคมีบำบัดดีกว่านะคะ
อาหารบางชนิดอาจจะมีประโยชน์ก็จริงแต่ก็ควรที่จะรับประทานให้ถูกเวลา เพราะถ้าหากเรานำมันไปใช้ร่วมกับยาบางชนิด แทนที่จะได้ประโยชน์ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ กลายเป็นว่า แทนที่จะหายป่วยก็ป่วยยิ่งกว่าเดิม แบบนี้คงไม่คุ้มกันหรอกเนอะ