ทันตแพทยสภาเตือน 'น้ำอัดลม' ตัวการสำคัญปัญหาช่องปาก

ทันตแพทยสภาเตือน 'น้ำอัดลม' ตัวการสำคัญปัญหาช่องปาก

ทันตแพทยสภาเตือนน้ำอัดลม ตัวการสำคัญของปัญหาสุขภาพช่องปาก ทำให้สารเคลือบฟันอ่อนบางลงทำให้ฟันผุ แนะล้างปากด้วยน้ำเปล่าและแปรงฟันถูกวิธีช่วยป้องกันได้...

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ทันตแพทย์ไพศาล กังวลกิจ เลขาธิการทันตแพทยสภา กล่าวว่า การบริโภคน้ำอัดลมในสหรัฐอเมริกาเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างมากในทุกวัย โดยเฉพาะในวัยเด็กและวัยรุ่น ปัญหานี้รุนแรงมากจนหน่วยงานด้านสุขภาพหลายหน่วยงาน รวมถึงสมาคมกุมารเวชศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา ออกประกาศเตือนถึงพิษภัยของการบริโภคน้ำอัดลม มีเด็กในวัยเรียนจำนวนมากแค่ไหนที่ดื่มน้ำอัดลม ผลการสำรวจพบว่า 1 ใน 2 หรือ 4 ใน 5 ของเด็กบริโภคน้ำอัดลมอย่างน้อย 1 แก้วต่อวัน และมีเด็กอย่างน้อย 1 ใน 5 ที่บริโภคน้ำอัดลมอย่างน้อย 4 แก้วต่อวัน เด็กบางคนบริโภคน้ำอัดลมเป็นปริมาณถึง 12 แก้วต่อวัน ยิ่งขนาดของแก้วใหญ่แค่ไหนปัญหาก็ยิ่งร้ายแรงมากขึ้น จากขนาด 6.5 ออนซ์ในช่วงปี 1950 กลายเป็นขนาดปกติที่ 20 ออนซ์ในช่วงปี 1990 เด็กเล็กและเด็กวัยรุ่นไม่ได้เป็นกลุ่มเดียวที่มีความเสี่ยง การดื่มน้ำอัดลมเป็นเวลานานจะมีผลสะสมต่อสารเคลือบฟัน ยิ่งมีอายุยาวนานมากขึ้น ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดปัญหาในช่องปากได้

เลขาธิการทันตแพทยสภา กล่าวว่า เพื่อเด็กเล็ก เด็กวัยรุ่น และผู้ใหญ่จะได้ประโยชน์จากการลดปริมาณการบริโภคน้ำอัดลมลง นอกจากนั้นพวกเขายังได้ประโยชน์จากการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากที่ดีอีกด้วย ด้วยวิธีการบริโภคดังนี้

1.เครื่องดื่มหลายๆ ประเภท ซื้อเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลน้อย เช่น น้ำเปล่า นม และน้ำผลไม้ 100% ไว้ในตู้เย็น ดื่มเครื่องดื่มเหล่านั้นแทนน้ำอัดลมและส่งเสริมให้ลูกๆ ดื่ม

2.ล้างปากด้วยน้ำเปล่า หลังจากดื่มน้ำอัดลมแล้ว ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าเพื่อขจัดสิ่งตกค้างจากน้ำอัดลมที่หากปล่อยทิ้งไว้จะสามารถทำให้สารเคลือบฟันกลายเป็นกรดได้

3.ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ และใช้น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุ ซึ่งจะทำให้สารเคลือบฟันมีความแข็งแรงมากขึ้น

ที่มา : http://www.thaihealth.or.th/

 598
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์