อีกหนึ่งความท้าทายสำหรับผู้หางานคือ การเจรจาต่อรองเงินเดือน ซึ่งขั้นตอนนี้สำคัญตรงที่ผู้หางานจะต้องโน้มน้าวใจให้นายจ้างเห็นว่าคุณมีค่ามากพอที่จะได้รับค่าตอบแทนตามที่คาดหวัง แต่ผู้หางานมักเป็นกังวลที่จะต่อรองอย่างมั่นใจ นอกจากความสามารถและประสบการณ์ที่คุณมีแล้ว ยังต้องการอะไรอีกบ้างในการเจรจาต่อรองเงินเดือนอย่างมีประสิทธิภาพ
การหาข้อมูลเปรียบเทียบเงินเดือน
การเรียกเงินเดือนที่เหมาะสมควรอ้างอิงจากอัตราเงินเดือนเฉลี่ยตามราคาตลาด โดยผู้ประกอบการมักจะอ้างอิงเงินเดือนจากเกณฑ์ต่อไปนี้ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเสนอเงินเดือนแก่ผู้สมัครงาน
• เงินเดือนเฉลี่ยที่บริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันเสนอแก่ผู้สมัครงาน
• เงินเดือนเฉลี่ยตามระดับประสบการณ์และวุฒิการศึกษา
• เงินเดือนเฉลี่ยที่บริษัทเสนอแก่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมในระดับเมือง/ประเทศ
เมื่อได้ข้อมูลตามที่กล่าวมาข้างต้น คุณก็จะทราบว่างานที่คุณสมัครนั้นจะได้รับค่าตอบแทนในระดับใด
อย่าเพิ่งพูดถึงเงินเดือนจนกว่าจะได้พูดคุยเรื่องคุณสมบัติของคุณให้เรียบร้อยเสียก่อน
เมื่อผู้ประกอบการได้ทราบแล้วว่าคุณคือคนที่ใช่และเหมาะสมกับงานดังกล่าว คุณจึงจะอยู่ในฐานะที่จะเรียกเงินเดือนตามที่คาดหวังไว้ได้
เพิ่มเงินเดือนตามความสามารถในการทำงาน
หากบริษัทเสนอเงินเดือนให้คุณน้อยกว่าที่คุณคาดไว้ อย่าลังเลที่จะต่อรองด้วยผลการทำงานในอนาคตของคุณ เช่น หากผลงานของคุณในช่วงทดลองงานเป็นที่น่าพอใจ บริษัทสามารถเพิ่มเงินเดือนตามที่คุณเรียกได้หรือไม่ โดยบอกผู้ประกอบการให้เข้าใจว่าคุณยอมรับเงินเดือนต่ำกว่าที่คาดหวัง เพราะเห็นว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะพิสูจน์คุณค่าของคุณ และคุณเหมาะสมที่จะได้รับเงินเดือนมากกว่าที่บริษัทเสนอให้ในครั้งแรก
ยอมรับสิ่งจูงใจที่ไม่ใช่ตัวเงิน
อีกทางหนึ่งที่ลดช่องว่างระหว่างอัตราเงินเดือนที่นายจ้างเสนอกับที่คุณคาดหวังไว้คือ การยอมรับสวัสดิการของบริษัท เช่น วันหยุดเพิ่มขึ้น อาหารกลางวันฟรี รถรับ-ส่ง เป็นต้น เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วอาจคุ้มค่ากว่าไปทำงานได้เงินเดือนสูงกว่าแต่ไม่ได้สวัสดิการที่ดีเช่นนี้ก็ได้
การแต่งตัวและการวางตัว
สุดท้าย หากคุณต้องการมากกว่านี้ การแต่งกายด้วยชุดสูท รองเท้า นาฬิกาที่ดูดีมีราคา และการวางตัวที่เหมาะสม มีความมั่นใจในคุณค่าของตน สิ่งเหล่านี้สามารถสื่อสารกับนายจ้าง และอาจช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับคุณได้มากขึ้น