การคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว
หลักเกณฑ์การคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว
• นักท่องเที่ยวที่มีสิทธิขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
• สินค้าที่มีสิทธิขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
• แบบคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยว (ภ.พ. 10)
• สถานที่ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
• ขั้นตอนการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
• ผังทางเดิน การขอคืนภาษี ณ ท่าอากาศยานฯ
• ตารางอัตราการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว
ผู้ประกอบการ
• คุณสมบัติผู้ประกอบการที่ประสงค์เป็นผู้ประกอบการขายสินค้าให้นักท่องเที่ยว
• วิธียื่นคำขออนุมัติ
สถานที่ติดต่อและหมายเลขโทรศัพท์
นักท่องเที่ยวที่มีสิทธิขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
1. ไม่เป็นผู้มีสัญชาติไทย
2. ไม่เป็นผู้มีภูมิลำเนาในประเทศไทย
3. ไม่เป็นนักบินหรือลูกเรือของสายการบินที่เดินทางออกนอกประเทศไทย
4. เดินทางออกนอกประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ
5. ซื้อสินค้าจากร้านค้าที่เป็นผู้ประกอบการขายสินค้าให้นักท่องเที่ยว โดยให้สังเกตสัญลักษณ์ ปิดแสดงไว้
ที่ร้านค้า
6. ซื้อสินค้ารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท จากสถานประกอบการแห่งเดียวกันในวันเดียวกัน
สินค้าที่มีสิทธิขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
1. ต้องเป็นสินค้า ไม่ใช่ค่าบริการ
2. เป็นสินค้าที่ซื้อจากร้านค้าที่เป็นผู้ประกอบการขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวซึ่งมีป้ายแสดงสัญลักษณ์
3. เป็นสินค้าที่นำออกนอกประเทศ พร้อมการเดินทางโดยเครื่องบิน ภายใน 60 วัน โดยนับวันที่ซื้อสินค้าเป็นวันแรก
4. ไม่เป็นสินค้าต้องห้ามนำออกนอกราชอาณาจักร เช่น วัตถุระเบิด อาวุธปืน อัญมณีที่ยังไม่ได้ประกอบขึ้นเป็นตัวเรือน
5. สินค้าต้องผ่านการตรวจจากศุลกากร ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ
6. กรณีซื้อสินค้าราคาแพง ที่กรมสรรพากรกำหนด 5 ชนิด ได้แก่ อัญมณีที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเรือน ทองรูปพรรณ
นาฬิกา แว่นตา ปากกา มูลค่าชิ้นละตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ต้องนำผ่านสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เข้าไปให้
เจ้าพนักงานสรรพากรตรวจและประทับตราลงนามกำกับอีกครั้งด้วย
แบบคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยว (ภ.พ.10)
แบบ ภ.พ.10 ที่สามารถขอคืนภาษีได้
1. แบบ ภ.พ.10 แต่ละฉบับมียอดซื้อ 2,000 บาทขึ้นไป (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
2. ต้องผ่านการตรวจสินค้าจากศุลกากร โดยดูในแบบ ภ.พ.10 ช่องสำหรับเจ้าพนักงานศุลกากร
ด้านล่างมุมขวาของแบบจะต้องมีตราประทับและเจ้าพนักงานศุลกากรลงชื่อกำกับพร้อมวันเดือนปีไว้
ตัวอย่างแบบ ภ.พ. 10
สถานที่ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
1. สำนักงานคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยวประจำท่าอากาศยานนานาชาติ ทั้ง 8 แห่ง ได้แก่
1.1 ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ
1.2 ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง
1.3 ท่าอากาศยานนานชาติเชียงใหม่
1.4 ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต
1.5 ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่
1.6 ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา
1.7 ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่
1.8 ท่าอากาศยานนานาชาติสมุย
2. ใส่ในตู้รับคำร้อง ณ สำนักงานคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยวประจำท่าอากาศยานนานาชาติทุกแห่ง
3. ส่งทางไปรษณีย์ โดยระบุที่อยู่ กรมสรรพากร กลุ่มบริหารการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว
90 พหลโยธิน ซอย 7 แขวงสามเสน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
ขั้นตอนการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
1. แบบขอคืนต้องได้รับการตรวจจากศุลกากร
นักท่องเที่ยวต้องยื่นเอกสารการขอคืนภาษี (แบบ ภ.พ.10 และต้นฉบับใบกำกับภาษี) พร้อมนำสินค้าให้
เจ้าพนักงานศุลกากรตรวจสินค้า ประทับตราและลงชื่อ วันเดือนปีกำกับไว้ในแบบ ภ.พ.10 มุมขวาล่าง ช่องสำหรับ
เจ้าพนักงานศุลกากร
2. สำรองที่นั่งและ Check-In กระเป๋าเดินทาง
กรณีสินค้าที่ขอคืนเป็นสินค้าที่กรมสรรพากรกำหนด 5 ชนิด ได้แก่ อัญมณีที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเรือน
ทองรูปพรรณ นาฬิกา แว่นตา ปากกา ที่มีมูลค่าชิ้นละ 10,000 บาทขึ้นไป ต้องนำไปให้เจ้าพนักงานสรรพากรตรวจ
สินค้าอีกครั้ง
3. ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
4. ยื่นแบบขอคืน (ตาม 1) และสินค้า (ตาม 2) ต่อเจ้าพนักงานสรรพากร เพื่อขอรับเงินภาษีคืน โดยสามารถขอรับ
เงินภาษีได้ดังนี้
4.1 เงินภาษีที่ขอคืนไม่เกิน 30,000 บาท สามารถเลือก
4.1.1 ขอคืนเป็นเงินสด (สกุลเงินบาทเท่านั้น)
4.1.2 ขอคืนเป็นดราฟต์ โดยระบุสกุลเงินได้ 4 สกุล ได้แก่ US$, EURO, STERLING, YEN
4.1.3 ขอโอนเข้าบัญชีบัตรเครดิต VISA, JBC, MASTERCARD, DINERS เท่านั้น
4.2. เงินภาษีที่ขอคืนเกิน 30,000 บาท สามารถเลือกขอคืนเป็นดราฟต์หรือโอนเงินเข้าบัญชีบัตร
เครดิตตาม 4.1.2 และ 4.1.3 เท่านั้น
ผังทางเดิน การขอคืนภาษี ณ ท่าอากาศยานฯ
นักท่องเที่ยว
ศุลกากร
ตรวจเอกสารและสินค้าที่ขอคืนเงิน
เคาท์เตอร์ออกบัตรโดยสาร (Check-in)
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)
สำนักงานคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว
ตารางอัตราการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว
คุณสมบัติผู้ประกอบการที่ประสงค์เป็นผู้ประกอบการขายสินค้าให้นักท่องเที่ยว
1. เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
1.1 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ต้องมีเงินทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว ไม่ต่ำกว่า 2,000,000 บาท
1.2 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่นอกเขตกรุงเทพฯ ต้องมีเงินทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว ไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท
2. ต้องเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและเสียภาษีในอัตราร้อยละ 7
3. มีความมั่นคงต่อเนื่องในการประกอบกิจการและมีประวัติการเสียภาษีอากรที่ดี
วิธียื่นคำขออนุมัติ
สามารถยื่นแบบคำขออนุมัติเป็นผู้ประกอบการขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวได้ 2 ทาง
1. ยื่นแบบกระดาษโดยใช้แบบฟอร์ม คท.1
1.1 ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ หรือ
1.2 กรณีสถานประกอบการที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ ให้ยื่น ณ
สำนักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ หรือจะยื่นผ่านสำนักงานสรรพากรพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่
2. ยื่นคำขอผ่านทางอินเทอร์เน็ต www.rd.go.th/vrt
สถานที่ติดต่อและหมายเลขโทรศัพท์
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ
โทร (662) 134-0674-8 FAX (662) 134-0671-3
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง
โทร (662) 535-6575-7 FAX (662) 535-6578
ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่
โทร (6653) 922-245, 277-265 FAX (6653) 277-219
ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต
โทร (6676) 328-267 FAX (6676) 328-266
ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่
โทร (6674) 227-294 FAX (6674) 273-845
ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา
โทร (6638) 245-966 FAX (6638) 245-967
ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่
โทร (6675) 701-616 FAX (6675) 663-633
ท่าอากาศยานนานาชาติสมุย
โทร (6677) 428-511 FAX (6677) 420-946
กลุ่มบริหารการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว
โทร (662) 272-8196-8 FAX (662) 617-3559
www.rd.go.th/vrt E-mail : vrefund@rd.go.th