ความคิดสร้างการกระทำ ถ้าคิดเหมือนเดิมจะทำเหมือนเดิม แต่ถ้าคิดใหม่จะทำใหม่ ถ้าเราเปลี่ยนความคิด การกระทำเปลี่ยน ผลลัพธ์ก็เปลี่ยน
“เริ่มต้นทุกวันด้วยการคิดดี” ประโยคเล็ก ๆ ที่สามารถยึดโยงสมองและหัวใจ ไปสู่เรื่องราวดี ๆ เพิ่มความใหม่สดให้ชีวิต ก่อให้เกิดความสุขในแง่มุมของการหาเลี้ยงชีวิตและการใช้ชีวิตไปพร้อม ๆ กัน
“ทำชีวิตให้คิดบวก” ฟังดูง่าย แต่หลายคนก็ไปไม่รอด เพราะโดยธรรมชาติของคนเราสมัครใจที่จะคิดลบก่อนคิดบวกเสมอ และเลือกที่จะเพ่งโทษต่อผู้อื่นหรือสิ่งแวดล้อม โดยละเว้นตัวเองเอาไว้ในฐานะคนพิเศษในทุกกรณี
พิมพา กมลศิริ กรรมการผู้จัดการ สถาบันฝึกอบรม M academy กลุ่มธุรกิจในเครือบริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารแมคโดนัลด์ บอกว่า ในชีวิตของคนเราทุกคน ไม่ว่าจะได้แต้มหรือเสียแต้ม ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกนับเอาไว้ทั้งหมด (everything counts) ในสมุดบัญชีของชีวิต เคยทำบาปเอาไว้มาก แล้วถึงจุดหนึ่งถมทำบุญไถ่โทษ ก็ใช่ว่าจะบวกลบกลบหนี้กันได้
“ทุกอย่างที่เราทำจะถูกนับเอาไว้หมดในสายตาผู้คน ฉะนั้นแล้วเวลาที่เราคิดจะทำอะไร ให้หัดคิดถึงหัวจิตหัวใจคนอื่นเอาไว้ด้วย ต้องฝึกคิดบวกในใจตัวเอง ขอให้คิดเข้ามาว่า ทุกอย่างเป็นความรู้สึกที่ดี เราต้องไม่ทำร้ายระบบดี ๆ ของสังคม ถูกผิดอยู่ที่ตัวเรา อยากให้คนรักเรา เกรงใจเรา ก็ต้องทำดี เมื่อคิดดีแล้วชีวิตก็จะติดบวก คนเราไม่ได้เก่งไปเสียทุกเรื่อง ทำอะไรไม่ได้ทุกอย่าง แต่เราสามารถเลือกที่จะทำให้ดีได้ในทุกวัน เพราะเป็นตัวเพิ่มแต้มบวกอย่างเดียวเลย”
ทักษะการคิดบวกถูกพัฒนามาเป็นโปรแกรมการสร้างคนในองค์กร โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจงานบริการ ซึ่งเป็นแนวที่แมคไทยถนัด ภายใต้ชื่อ PeoplePlus+ หนึ่งในหลักสูตรธงนำของ M Academy ที่ว่าด้วยการเพิ่มทักษะในตัวคน เพื่อไปเพิ่มศักยภาพให้องค์กรได้เติบโตไปด้วยกัน
PeoplePlus+ ประกอบด้วยฐาน 4 ได้แก่
เธอบอกว่า คนที่มีทัศนคติเชิงบวกมาก ๆ จะเป็นคนที่สามารถดูแลตัวเองได้ดี การฝึกตัวเองให้คิดบวกก่อนคิดลบ จึงเป็นเกราะป้องกันไม่ให้ทำร้ายผู้อื่นทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งกาย วาจาและใจ “คนเราไม่มีใครดีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเรามีสติ ทุกครั้งที่โกรธ แค่เราปิดปากตัวเองเอาไว้ ไม่พูดตอนโมโห ก็ไม่มีใครต้องเจ็บใจ เพราะแค่เราโมโห เราก็ติดลบแล้ว”
ท่ามกลางความเจริญทางด้านวัตถุและเทคโนโลยี ดูเผิน ๆ เหมือนเราจะใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นในสังคมยุคใหม่ แต่เมื่อมองลึกลงไปแล้วการดูแลจิตใจให้อยู่รอดปลอดภัย กลับเป็นเรื่องยากเย็นพอ ๆ กับเข็นครกขึ้นเอเวอร์เรส ดังนั้นการเปลี่ยนมาคิดบวก จึงเป็นการยกปัญหาเท่าภูเขาให้เบานุ่มในจิตใจ ด้วยการหันมา “คิดดี ทำดี ผลลัพธ์ดี”
“คนเราถ้าไม่คิดจะเปลี่ยน จะไม่มีวันเปลี่ยน เพราะความคิดสร้างการกระทำ ถ้าเราคิดเหมือนเดิมจะทำเหมือนเดิม แต่ถ้าคิดใหม่จะทำใหม่ ถ้าเราเปลี่ยนความคิด การกระทำเปลี่ยน ผลลัพธ์เปลี่ยน ได้สิ่งใหม่ เมื่อเราทำได้ เราก็จะได้ แล้วเราก็จะเดินหน้าทำต่อ”
พิมพาบอกว่า วิธีสร้างความคิดบวกแบบง่ายๆ ก็คือ เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการคิดดี มองทุกคนในแง่ดี พูดแต่สิ่งดีๆ มองว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ ตราบเท่าที่พระอาทิตย์ยังคงขึ้นทางทิศตะวันออก ฉะนั้นเราควรเปิดรับทุกโอกาสที่เข้ามา และเลือกที่จะทำในสิ่งที่รักอย่างมีความสุข
การเลื่อนชั้นความสุขให้กับตัวเอง เราต้องถามตัวเองทุกวัน ว่าวันนี้เราได้เผอเรอทำอะไรผิดพลาดไปไหม แล้วจะแก้ไขสิ่งที่เคยพลั้งไปได้อย่างไร ถ้าเราเป็นหัวหน้ามีทั้งลูกน้องและเจ้านาย การหยิบมุมคิดเชิงบวกมาใช้ในงานคือ การดูแลใส่ใจคนรอบข้าง 360 องศาให้เท่ากัน ไม่ให้เจ้านายมองว่ากำลังถูกพะเน้าพะนอจน over และมองข้ามความใส่ใจลูกน้องถึงขั้น under เพราะการได้แต้มหรือเสียแต้มจากทั้งเจ้านายและลูกน้อง อยู่ที่ความคิดและการกระทำของเราเพียงคนเดียว
ปัญหาคลาสสิกของบรรดาเอสเอ็มอีและเถ้าแก่ที่มักคิด (ไปเอง) ว่าตัวเองมือโปร เวลาพูดอะไรกับลูกน้องแบบไม่ถนอมน้ำใจกัน ตามประสาเสี่ยช่างลุย ทำให้ธุรกิจมักเผชิญกับปัญหาการบริหารคน เพราะลูกน้องไม่กล้าบอกเวลาเฮียพลาด ธุรกิจเอสเอ็มอีจึงรักษาขนาดกลางและย่อมอยู่ร่ำไป ไม่สามารถเติบโตเป็นไซส์พี่บิ๊กกับเขาได้ เพราะทุกการกระทำถูกผู้คนจดแต้มเอาไว้หมดแล้ว
การคิดบวกต้องใช้เวลา เพราะคนเราเกิดมาคิดดำก่อนขาว เราต้องเปลี่ยนทิศคิดให้ขาวก่อนจะกลายเป็นดำ ต้องใช้เวลาและความพยายาม พร้อมกับปลุกปลอบใจตัวเองว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวทำใหม่ เราทำได้ ๆ
คนเรามีความสุขมาจากอะไร เธอเล่าว่า การคิดดีและความสุขที่มีคนรักเรา กินพื้นที่ความอิ่มเอิบมากถึง 80% ส่วนที่เหลือคือ เงิน ซึ่งเป็นอีกรูปแบบของความสำเร็จชั่วคราวไม่ยั่งยืน และความสุขจากการทำงาน แต่ก็ไม่คงที่ เพราะคนเรามักจะต้องวิ่งหาความก้าวหน้าต่อไปเรื่อย ๆ ดังนั้นแค่เอาดีกับการคิดดีให้ได้ ไม่ทำร้ายใคร ไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการกระทำ ความสุขแบบเย็น ๆ ก็พร้อมเสิร์ฟถึงมือ องค์กรที่เป็นเลิศจะต้องสร้างคนให้ “คิดดี มีวินัย” การมีวินัยเป็นการจัดระเบียบสังคม และเป็นสะพานสร้างคนให้เก่ง
“คนมีวินัยจะประสบความสำเร็จในชีวิต เราต้องสร้างตัวเราให้รู้รับผิดชอบ ไม่ผัดวัน ไม่บอกเอาไว้ก่อน คนมีวินัยจะมีกระบวนการในการคิด มีระบบในการทำ วินัยสร้างคน คนสร้างองค์กร วินัยบอกว่าอะไรถูกอะไรผิด เป็นสะพานเชื่อมความสำเร็จ มีเป้าชัดเจนในการทำงานและชีวิต การมีวินัยตอบโจทย์ได้ทุกจุด ส่งต่อความคิดที่ถูกต้อง ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเอง สร้างแรงบันดาลใจให้ได้ คิดดี มีวินัย อย่ายึดเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่ตั้ง”
แมคโดนัลด์ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการที่เป็นเลิศ ภายใต้หลักคิดที่ว่า บริการอยู่รอบตัวเราทุกที่ทุกเวลา ทั้งกับตัวเอง ครอบครัว ที่ทำงาน คู่ค้า และสังคม บริการที่ดีต้องเริ่มต้นจากการให้ ด้วยการทำสิ่งที่ใช่ ในเวลาที่เหมาะ กับบุคคลและสถานการณ์ที่ถูกต้อง เรียกว่า เป็นการให้บริการอย่างรู้ลึก รู้ใจ และรู้จักมีไหวพริบ ภายใต้ทักษะการฝึกปฏิบัติและลงมือทำจนกลายเป็นความชำนิชำนาญ
การมีบุคลิกภาพที่ดี ถือเป็นส่วนหนึ่งของการคิดดีและยังประโยชน์ให้กับตัวเราเอง กับคนรอบข้าง ลูกค้า และองค์กร แนวคิดของ PersonalityPlus+ จะมองถึงสิ่งที่เรามี (ตัวตน) พัฒนาไปสู่สิ่งที่เป็น (คิดบวก) สะท้อนออกไปหาสิ่งที่ทำ (การสื่อสาร) และไปสู่ผลลัพธ์คือสิ่งที่ได้ (สถานการณ์) โดยสรุปแล้ว บุคลิกภาพประกอบด้วย การสื่อสาร+ภาพลักษณ์+มาด+มารยาท”
“เริ่มต้นทุกวันด้วยการคิดดี” ประโยคเล็ก ๆ ที่สามารถยึดโยงสมองและหัวใจ ไปสู่เรื่องราวดี ๆ “ทำชีวิตให้คิดบวก” ฟังดูง่าย และเป็นจริงได้ถ้าเราเปลี่ยนวิธีคิด แล้วรีบลงมือทำ อย่างคนที่มีวินัย เพื่อเปลี่ยนไปเป็นคนใหม่ที่ยังไงก็ดูดี