ขั้นตอนการขอรับประโยชน์ทดแทน › กองทุนประกันสังคม › กรณีชราภาพ

ขั้นตอนการขอรับประโยชน์ทดแทน › กองทุนประกันสังคม › กรณีชราภาพ

 ขั้นตอนการขอรับประโยชน์ทดแทน

ลักเกณฑ์ที่จะทำให้ท่านมีสิทธิ คือ
    -  ผู้ประกันตน / ทายาทผู้มีสิทธิ ต้องกรอกแบบ สปส. 2-01 พร้อม ลงลายมือชื่อ และนำมายื่นที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด / สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ หรือยื่นขอรับทางไปรษณีย์โดยมีหลักฐานครบถ้วน
    -  เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณา
    -  สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา
    -  พิจารณาสั่งจ่าย
เงินสด / เช็ค (ผู้ประกันตน / ผู้มีสิทธิมารับด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมารับแทน) ส่งธนาณัติให้ผู้ประกันตน โอนเข้าบัญชีธนาคารตามบัญชีของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนหมายเหตุ : เงินบำนาญชราภาพ จ่ายเป็นรายเดือน เงินบำเหน็จชราภาพ จ่ายครั้งเดียว
1. ประโยชน์ทดแทนกรณีบำเหน็จชราภาพ (สำหรับผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบกรณีชราภาพไม่ถึง 180 เดือน)
กรณีที่จ่ายเงินสมทบกรณี ชราภาพ ไม่ถึง 12 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพมีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบ ที่ผู้ประกันตนจ่ายสมทบ
 
ประกันตนอายุ 55 ปี และสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง ขณะส่งเงินสมทบได้ 10 เดือน ประโยชน์ทดแทน
กรณีบำเหน็จชราภาพจะได้รับ 300 x 10 = 3,000 บาท กรณีที่จ่ายเงินสมทบกรณีชราภาพ ตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพมีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบ ที่ผู้ประกันตนและนายจ้างนำส่งพร้อมผลประโยชน์ตอบแทน ตามที่สำนักงานประกันสังคมประกาศกำหนด
 
ตัวอย่าง ผู้ประกันตนอายุ 55 ปี สิ้นสุดสภาพการเป็นลูกจ้างวันที่ 28 พฤศจิกายน 2547 ยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน ในวันที่ 10 ธันวาคม 2547 เจ้าหน้าที่วินิจฉัยในวันเดียวกัน โดยมีรายการนำส่งเงินสมทบ กรณีชราภาพของผู้ประกันตน ดังนี้
 

ปี จำนวนเงินสมทบ
นายจ้าง ผู้ประกันตน รวม

2542

850

850

1,700

2543

1,550

1,550

3,100

2544

2,300

2,300

4,600

2545

3,200

3,200

6,400

2546

4,100

4,100

8,200

2547

2,800

2,800

5,600

รวม

14,800

14,800

29,600

 

วิธีคำนวณผลประโยชน์ตอบแทน

ปี เงินสมทบ เงินสมทบสะสม x อัตรา ผลประโยชน์ตอบแทน
2542 1,700 1,700 x 2.4% = 40.80
2543 3,100 (1,700 + 3,100 = 4,800 ) x 3.7% = 177.60
2544 4,600 (4,800 + 4,600 = 9,400) x 4.2% = 394.80
2545 6,400 (9,400 + 6,400 = 15,800) x 4.3% = 679.40
2546 8,200 (15,800 + 8,200 = 24,000) x 6.5% = 1,560.00
2547 5,600 (24,000 + 5,600 = 29,600) x 2.00% x 11/12 =  542.67
    รวม 3,395.27

 หมายเหตุ 11/12 หมายถึง ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบมาแค่ 11 เดือน ภายใน 1 ปี
เงินบำเหน็จชราภาพและผลประโยชน์ตอบแทนที่ผู้ประกันตนจะได้รับ คือ 29,600 + 3,395.27 = 32,995.27บาท

3. ประโยช์ทดแทนกรณีบำนาญชราภาพ

(สำหรับ ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบกรณีชราภาพ มาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือน ครบอายุ 55 ปี และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลงจะได้รับเงินบำนาญชราภาพ ในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย)

 

ตัวอย่างที่ 1 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย  
=
20 x 13.000
100
= 2,600  
  ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญชราภาพเดือนละ 2,600 บาท ไปจนตลอดชีวิต
   
  การหาค่าเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย คือ นำค่าจ้าง 60 เดือนสุดท้าย รวมกันแล้วหารด้วย 60
  ค่าจ้างเฉลี่ย = ผลรวมของค่าจ้าง 60 เดือน
จำนวนเดือน (60 เดือน)
   
   
  กรณีที่จ่ายเงิน สมทบเกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราเงินบำนาญชราภาพขึ้นอีกในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบทุก 12 เดือน สำหรับระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน
 

เช่น จ่ายเงินสมทบมาได้ 193 เดือน จะได้รับเงินบำนาญชราภาพในอัตรา 21.5% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือน สุดท้าย เป็นต้น

 

ตัวอย่างที่  2  ตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนทำงานได้รับเงินค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท มาตลอด และส่งเงินสมทบมาแล้ว 20 ปี อายุครบ 55    ปีบริบูรณ์  และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเดือนละเท่าใด และหากเสียชีวิตภายใน 5 ปี จะได้รับเงินหรือไม่อย่างไร
       
          1. ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญ
              =  15 ปี (แรก) ได้อัตราเงินบำนาญ 20%
              =  5 ปี (หลัง) ได้อัตราเงินบำนาญ (1.5% (ปรับเพิ่ม) × 5ปี ) = 7.5%
              รวมอัตราเงินบำนาญ 20 ปี = 20% + 7.5% = 27.5%
              ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญรายเดือน = 27.5% ของ 15,000 บาท
                                                              = 4,125 บาท/เดือนจนตลอดชีวิต  

          2. กรณีผู้ประกันตนที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพเสียชีวิตภายใน 5 ปี ทายาทผู้มีสิทธิ จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญรายเดือน
              = 4,125 บาท  × 10 เท่า
              = 41,250 บาท 

          ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการจ่ายเงินสมทบรายเดือนกับกองทุนประกันสังคมนั้นมิได้สูญเปล่า เพราะนอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์ระหว่าง  การทำงานมากมายแล้ว เมื่อถึงวัยเกษียณก็ยังคง อุ่นใจได้ว่ามีเงินออมชราภาพไว้เป็นหลักประกัน

 

 51183
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์