กว่าจะได้เป็นแม่คนนี่ช่างยากลำบากแสน เข็ญเลยนะคะ ยิ่งต้องเป็นคุณแม่ในแบบฉบับ working mom ดาบก็แกว่ง เปลก็ไกวด้วยแล้ว เธอทำงานจนถึงวินาทีสุดท้ายเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานกำหนดให้ลูกจ้างหญิงสามารถลาคลอดตามกฎหมายได้ ก่อนและหลังรวมกันไม่เกิน 90 วัน โดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์ก็ตาม แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อใจหนึ่งก็อยากหยุด อีกใจหนึ่งก็เกรงใจเจ้านาย ที่ต้องขาดคนทำงานไปนานหลายเดือน เป็นเหตุให้ working mom ทั้งหลายยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานทั้งที่ใกล้จะถึงกำหนดคลอดอยู่อีกไม่กี่ วันข้างหน้า และหลังจากคลอดไม่นานก็เห็นเธอกลับมานั่งประจำที่พร้อมทำงานอีกครั้ง น่าชื่นชมจริงๆ

          มาดูกันว่ากฏหมายให้สิทธิอะไรกับพวกเธอบ้าง

    • สิทธิลาคลอดและการได้รับค่าจ้าง

          ตามกฎหมายแล้ว เป็นสิทธิของลูกจ้างที่จะลาคลอดได้ตามกำหนด 90 วัน โดยที่นายจ้างไม่มีสิทธิยับยั้งได้ และในช่วงเวลาที่ลาคลอด ลูกจ้างจะได้รับค่าจ้างจากนายจ้างเป็นเวลา 45 วัน รับจากประกันสังคมอีก 45 วัน และในกรณีที่มาทำงานเลยโดยไม่รอหยุดให้ครบ 90 วันเช่นนี้ ลูกจ้างต้องได้รับค่าจ้างตามปกติในวันที่มาทำงานด้วยนะคะ

    • สิทธิได้รับค่าคลอดบุตร

          นอกจากนี้ยังสามารถเบิกค่าคลอดบุตรในอัตราเหมาจ่าย 13,000 บาทต่อครั้ง แต่ไม่เกิน 2 ครั้ง ซึ่งหมายความว่า หากคลอดบุตรคนที่ 3 คุณแม่จะไม่สามารถเบิกค่าคลอดบุตรได้อีก ยกเว้นถ้าคุณพ่อก็เป็นผู้ประกันตนด้วย ก็สามารถใช้สิทธิของคุณพ่อกับบุตรคนที่ 3 และ 4 ได้

    • สิทธิได้รับเงินสงเคราะห์บุตร

          สำนักงานประกันสังคมยังให้เงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายรายเดือนให้แก่บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งอายุไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ ในอัตรา 400 บาทต่อเดือนต่อคน โดยใช้สิทธิได้คราวละไม่เกิน 2 คน

          ทีนี้มาดูกันว่า ถ้าจะขอรับสิทธิที่ได้บอกไปนั้น ต้องมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง

          คุณแม่ที่จะขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีคลอดบุตร ต้องเป็นผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 เดือน ภายในระยะเวลา15 เดือน ก่อนวันคลอดบุตร โดยเอกสารหลักฐานที่ต้องเตรียมได้แก่ แบบสปส.2-01 สำเนาสูติบัตรของบุตร สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนสมรสพร้อมสำเนา (ถ้ามี) และสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่ บัญชี (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร) และนำมายื่นขอรับประโยชน์ทดแทนได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด ทุกแห่งที่ท่านสะดวก

          หากคุณแม่ท่านใดมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่ม เติมได้ที่สายด่วนประกันสังคม 1506 เพื่อประโยชน์ที่คุณมีสิทธิจะได้รับ ไหนๆ ก็จ่ายสตางค์สมทบเข้ากองทุนไปตั้งเดือนละ 750 บาทแล้วนี่น